เกร็ดความรู้

ปัญหางานสี

สีที่นำมาใช้ทาบ้าน ถ้าเป็นบ้านปูนจะใช้สีน้ำพลาสติกหรือสีอะครีลิก ถ้าเป็นบ้านไม้จะใช้สีน้ำมันหรือสีน้ำอะครีลิกหรือ ส่วนที่เป็นเหล็กจะใช้สีน้ำมัน เป็นต้น

ส่วนที่เป็นไม้ มีความชื้น มีเชื้อราต้องมีสีทากันเชื้อรารองพื้น แล้วจึงทาสีจริง ส่วนที่เป็นผนังปูน ต้องให้ผนังแห้งก่อนแล้วจึงค่อยทาสี การที่ผนังไม่แห้งแล้วทาสีลงไปจะส่งผลให้สีบวม หลุดร่อนง่าย ก่อนเวลาอันควร วิธีทดสอบง่ายๆ ว่าผนังจะทาสีได้หรือไม่

กระทำโดยใช้ถุงพลาสดิกขนาด 1 ฟุต ยาว 1 ฟุต ปะลงไปบนผนังที่ทาสี แล้วปิดทับถามขอบๆ ถ้วยสก๊อดเทปดูไอน้ำาที่เกาะอยู่ถามถุงพลาสติก ถ้ายังมีไอน้ำแสดงว่า ความชื้นในผนังมีอย่าเพิ่งทาสีการทาสี ควรปฏิบัติดามคำแนะนำของสีแต่ละยี่ห้อ โดยทั่วไปจะทาสีรองพื้น 1 เที่ยว แล้วทาสีจริงอีก 2 เที่ยว สีบางยี่ห้อ อาจทาสีจริงลงไปได้ทันทีก็มี เพราะสจริงมีสีรองพื้นปนอยู่ด้วย ถ้าเป็นผนังเก่า ขอให้ขูดสีเก่าออกให้หมดก่อน แล้วทาสีรองพื้นปูนเก่า 1 เที่ยว ทาสีจริง 2 เที่ยว ถ้าเป็นผนังปูนใหม่ๆ ที่ ยังไม่เคยทาสีมาเลย ให้ทาสีรองพื้นปูนใหม่ 1 เที่ยวแล้วทาสีจริง 2 เที่ยวสีที่ใช้กับบ้าน หากใช้ยี่ห้อใด ควรใช้ยี่ห้อนั้นๆ ทั้งหลัง เพื่อสะดวกในการดูแลบำรุงรักษาซ่อมแซมในอนาคด ควรมีสมุด ประวัดิของบ้านว่าใช้สีอะไร สีเบอร์อะไร ใช้ส่วนไหนของบ้าน ช่างที่มาซ่อม จะได้มีข้อมูลในการซ่อมแซม บำรุงรักษาได้ง่ายขึ้นสีของชายคา หรือส่วนที่เป็นไม้ ถ้าหลุดร่อนในอนาคดต้องขูดทำความสะอาด แล้วรอให้พื้นผิวแห้ง จึงท่าทับลงไปได้ การเลือกสี นอกจากจะดูในแคดตาล็อกแล้ว ควรดูจากแผ่นจริงที่กา เพราะสีในแคดตาล็อกเป็นภาพพิมพ์ มิใช่สีเหมือนจริง ควร เลือกสีด้วยความชอบ ผสมผสานกับคำแนะนำของผู้รู้ สีบ้านจะออกมาท่ามกลาง ความสวยงาม ความพึงพอใจและถูกต้องดาม หลักของการใช้สี